เมิ่อเวลาเวลา 09.09 น. วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ณ สนามมวยลุมพินี รามอินทรา พลโท สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยลุมพินีพร้อมคณะผู้บริหารร่วมกับ”เสี่ยชาย” สิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ผู้บริหาร บจก. โก สปอร์ต จำกัด ร่วมกันกราบไหว้พระพุทธรูปและพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 จากนั้นได้ทำพิธีบรวงสรวงพระพรหมและศาลปู่ย่า
เมื่อได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์ ได้ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รอบๆเวทีมวยทั้ง 4 ทิศ โดยมี นายปรเมษฐ์ ภักดีคีรีไพรวัลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เป็นผู้ประกอบพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล และขออนุญาตในการจัดนักมวยหญิง ขึ้นชกที่สนามมวยลุมพินีเป็นครั้งแรก(ในรอบ65ปีนับตั้งแต่เปิดเวทีมวย)
ตลอดระยะเวลา 65 ปี ของสนามมวยเวทีลุมพินี ได้ก่อตั้งมา ไม่เคยมีนักมวยหญิงขึ้นเวที แต่เมื่อมาถึงวันนี้ “โลกเปลี่ยนไป” ผู้หญิงถูกยอมรับในเรื่องของ “สิทธิ”ที่เท่าเทียมกับผู้ชาย ซึ่งจะได้เห็นว่า “ผู้หญิง” ได้แสดงศักยภาพของตัวเองที่มี สร้างประวัติศาสตร์ในหลากหลายเรื่องราว ทั้งการที่ขึ้นเป็นผู้นำประเทศ เป็นนักบริหารฯ เป็นนักร้อง นักแสดง นักกีฬา ล้วนแล้วแต่ทำได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย โดยเฉพาะเรื่องของ “นักกีฬา” ที่ก่อนหน้านั้น จะมี “กีฬา” เพียงไม่กี่ประเภทที่เปิดโอกาสให้กับ “ผู้หญิง” ได้แสดงศักยภาพ แต่มีอีกหลายประเภทกีฬา ที่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ “ผู้หญิง” ได้แสดงศักยภาพ แต่เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง วันนี้ “กีฬา” หลายประเภท ที่ในอดีตนั้นไม่ยอมให้ผู้หญิง มีส่วนร่วม ในยุคนี้ “โลกเปลี่ยนแปลง” กีฬาเหล่านั้น เปิดโอกาสให้ “ผู้หญิง” ได้ร่วมสานความยิ่งใหญ่ เช่น “กีฬาฟุตบอล” และ “กีฬามวย” โดยเฉพาะกีฬามวย ทั้ง “มวยสากล” และ “มวยไทย” มีการพัฒนาส่งเสริมนักกีฬาหญิงอย่างเป็นรูปธรรม มวยสากลสมัครเล่น ได้มีการบรรจุเข้าไปแข่งขันกีฬาระดับโลก
ในส่วนของ “มวยไทยหญิง” ก็มีการส่งเสริม จนปัจจุบันนี้มี “มวยหญิง” ในเมืองไทยมากมาย ดังนั้น ท่าน พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยเวทีลุมพินี นายสนามมวยวิสัยทัศน์ไกล ได้มีนโยบายที่จะจัด “มวยหญิง” ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ซึ่งก่อนหน้านั้น มี “แรงต้าน” ในเรื่องของ ประเพณี วัฒนธรรม ที่หลายคนอ้าง แต่ก็มี “คนรุ่นใหม่” หลายๆเสียง ให้การส่งเสริม สนับสนุน แนวคิดของ “นายสนาม”
ล่าสุดนั้น ทาง รายการ ลุมพินี โก สปอร์ต เวิร์ล มวยไทย โดยโปรโมเตอร์ป้ายแดง สิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ที่จะถือกำเนิดในวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม 2564 ที่สนามมวยลุมพินี จึงได้มีการบรรจุคู่มวยหญิง เข้าร่วมรายการ ระหว่าง เสน่ห์จันทร์ ส.จ.โต้งปราจีน กับ บัวขาว สพล.ชัยภูมิ ในพิกัด 105 ปอนด์ และเพื่อเป็น “ตำนาน” ของมวยหญิงคู่แรกของสนามมวยเวทีลุมพินี ทางโปรโมเตอร์ สิทธิรุจน์ ได้ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ ด้วยการประกาศให้มวยหญิงคู่นี้มีการชิงแชมป์ 2 สถาบัน หนึ่งนั้นคือ ชิงแชมป์ว่างของ รายการลุมพินีโกสปอร์ต เวิร์ล มวยไทย และอีกหนึ่งสถาบันคือ แชมป์ 105 ปอนด์ที่ว่าง ของ WBC มวยไทยโลก
“เพื่อเป็นเกียรติประวัติของ เด็กทั้งคู่ เพื่อเกียรติยสและศักดิ์ศรี เพื่อเป็น “ตำนาน” ที่จะอยู่คู่วงการมวยตลอดไปของ การก้าวขึ้นเวทีมวยลุมพินี เป็น “คู่แรก” ของ “มวยหญิง” ที่เกิดขึ้นครั้งแรกของลุมพินี ตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ก่อตั้งมา จึงมีการชิงแชมป์ที่ว่างของสองสถาบัน ให้เป็นที่กล่าวขานกันไปเลยครับ ซึ่งเรื่องพิธีกรรม เราได้ทำพิธีบวงสรวง ขออนุญาตครูบาอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรียบร้อยครับ โลกเปลี่ยน เราต้องเปลี่ยนให้ทันโลกครับ เราไม่ได้ลบหลู่ แต่เราเข้ามาพัฒนา เชื่อว่าทุกคนสัมผัสถึงความตั้งใจของเราได้ครับ ยืนยันว่า ผมเต็มที่กับการทำงาน
โดยจะประเดิมนัดแรกในรายการ “ศึกลุมพินีโกสปอร์ตเวิลด์มวยไทย” วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2564 นี้ ณ เวทีมวยลุมพินี รามอินทรา(หากทาง ศบค.อนุญาตให้จัดแข่งขันมวยได้)
“ผมคนไทยครับ และเชื่อเรื่อง บาปบุญคุณโทษ และเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งมวยไทย เป็นกีฬาประจำชาติไทย ที่เกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ที่เสมือนหนึ่ง “มรดก” ให้เราได้ใช้ทำมาหากิน เมื่อเราได้มีโอกาสเข้ามาทำงานที่สนามมวยเวทีลุมพินี ถือเป็นคนของลุมพินี ผมพร้อมด้วยทีมงานจึงต้อง ฝากเนื้อฝากตัวกับ ท่านนายสนาม พล.ท.สุชาติ แดงประไพ และสิ่งที่มองไม่เห็น นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่สนามมวยเวทีลุมพินี ผมเชื่อมั่นว่า เราทำดี เจตนาดี มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน เราจะได้รับการสนับสนุนจากสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็นครับ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม เวลาดี 09.09 น. งานบวงสรวง ที่สนามมวยลุมพินีเริ่มขึ้นครับ ทำแล้วทีมงานทุกคนสบายใจ และผมก็มั่นใจว่า อุปสรรคต่างๆก็จะผ่านพ้นไปด้วยดีครับ เพราะผมมีเจนาที่บริสุทธิ์ มาด้วยความตั้งใจ ทุ่มเท ครับ” เสี่ยชาย กล่าว