เนรมิต ลุมพินี จัดเอาท์ดอร์

“บิ๊กแดง”พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยเวทีลุมพินี เตรียมมาตรการสุดเข้มในการที่จะกลับมาจัดมวยไทยเพื่อต่อลมหายใจของนักมวยและหัวหน้าคณะทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 โดยเน้นความปลอดภัยมาก่อนร่วมกับ เสี่ยชาย โกสปอร์ต เนรมิตรพื้นที่จอดรถชั้น5 ของเวทีลุมพินีเป็นสตูดิโอมวยไทยเป็นระบบเอาท์ดอร์ ระบายอากาศมากขึ้นกว่าเดิม โดยจะเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ประกอบการถ่ายทอดสดมีเสียงเชียร์ และ ภาพคนดูกราฟฟิคเพื่อให้ภาพสมจริง นอกจากนั้นยังจำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 20คน โดยเฉพาะนักมวย พี่เลี้ยงและ กรรมการ จะมีการตรวจสวอปจมูก และตรวจเลือดจากรพ.จุฬาฯ 2วันก่อนแข่งขัน ซึ่งจะมีการกักตัวนักมวยและพี่เลี้ยง 4วันก่อนมวยชก และ หลังชกต้องรายงานตัวเป็นระยะเวลา14วันต่อแพทย์สนามลุมพินี โดย บิ๊กแดง เปิดใจในเมื่อโควิดยังอยู่กับคนไทยอีกนานจึงต้องหาทางออกเพื่อไม่ให้วงการมวยดับสูญ หากทางภาครัฐผ่อนคลายล็อกในช่วงสิ้นเดือนนี้ก็จะเริ่มจัดมวยได้ในต้นเดือนกันยายนทันที ขณะที่ เสี่ยชาย โกสปอร์ต เผยได้ทุ่มทุนเพื่อทำสตูดิโอมวยระบบไฮเทคขึ้นมาเพื่อช่วยให้นักมวยมีทางทำมาหากิน และมั่นใจว่าการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยจะทำให้การถ่ายทอดสดออกมาสมบูรณ์แบบขึ้น

หลังจากที่ภาครัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่องทำให้กิจกรรมต่างๆได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะวงการมวยเจอผลกระทบไปเต็มๆนักมวยไม่ได้ชก หัวหน้าคณะต้องรับภาระดูแลนักมวยกว่า4เดือน จนบางค่ายต้องเลิกทำมวยและนักมวยก็หันไปประกอบอาชีพอื่น 
ในเรื่องนี้”บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยเวทีลุมพินี ได้เผยว่า เรื่องนี้ตนในฐานะนายสนามมวยลุมพินีไมได้นิ่งนอนใจ ยอมรับว่าเห็นใจนักมวยและหัวหน้าคณะที่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้ ในเมื่อสนามมวยคือต้นทางของอาชีพนักมวยจึงต้องหาทางช่วยเหลือซึ่งตนได้ไปหารือกับ ศบค.ชุดเล็ก มาแล้วเกี่ยวกับมาตรการป้องกันที่เข้มงวด และได้คำแนะนำมาปรับใช้โดยเฉพาะการจัดมวยในระบบเอาท์ดอร์ เพื่อให้การระบายอากาศคล่องตัวกว่าเดิม ตนจึงเอาพื้นที่จอดรถชั้น5 มาปรับปรุงเป็นสตูดิโอมวยไทย โดยร่วมกับ เสี่ยชาย โกสปอร์ต ซึ่งจะใช้ระบบเทคโนโลยีมาใช้ด้วยทั้งภาพคนดู และเสียงเชียร์ เหมือนกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เคยทำมาก่อน 
“ตอนนี้ที่ชั้น5ได้มีการปรับเป็นสตูดิโอมวยไทย นำเอาระบบบลูสกรีนมาใช้ จะมีเสียงเชียร์ เสียงปี่กลอง และภาพของแฟนมวยประกอบการชก และจะมีการแบ่งห้องบรรยายแยกออกไป รวมไปถึงห้องควบคุมต่างๆ ในเวทีจะมีคนร่วมกิจกรรมไม่ถึง20คนด้วยซ้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของศบค.” บิ๊กแดง เผย
ส่วนมาตรการป้องกันต่างๆนั้น พล.ท.สุชาติ เผยว่าตนได้ทำเอกสารเพื่อชี้แจ้งให้กับฝ่ายแพทย์ของ ศบค.ซึ่งก็ได้รับคำชมว่าเข้มงวดมาก โดยจะจำกัดทางเข้าและออกเพียงทางเดียง และมีจุดคัดกรองอาการไข้ ไอ หอบ เหนื่อย เป็นหวัดสำหรับนักมวย พี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ และ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ต้องไม่เกิน20คน โดยทางเข้าจะมีจุดวัดอุณหภูมิ และ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 
ในส่วนของมาตรการพิเศษ ลุมพินีจะมีการตรวจสวอปจมูกนักมวย และ กรรมการ จะเพิ่มการตรวจเลือดจากแลปของรพ.จุฬาลงกรณ์ 2วันก่อนแข่งอีกด้วย ถ้าใครไม่ผ่านก็ไม่ได้ชก  ส่วนเจ้าหน้าที่เวที โปรโมเตอร์ ทีมงานถ่ายทอดสด และผู้เกี่ยวข้อง จะต้องตรวจคัดกรองจากทีมแลปของรพ.จุฬาฯ โดยจะตรวจก่อนแข่งขัน 2วัน ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง  ถ้าผลตรวจเป็นลบก็จะดำเนินงานต่อไปได้ แต่ถ้าผลบวก ทางทีมงานจะยกเลิกการแข่งขันทันที 
“ลุมพินีจะใช้ระบบปิดไม่ให้แฟนมวยเข้าชม และจะมีการกักตัว นักมวย และ พี่เลี้ยง4วันก่อนแข่งขันในสถานที่ลุมพินีจัดไว้ให้ หลังแข่งขันเสร็จจะต้องรายงานตัวกับแพทย์สนามลุมพินีเป็นระยะเวลา 14วัน ส่วนผู้ตัดสินบนเวทีจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวนักมวยโดยใช้สัญญาณมือหรือเสียงแทน นอกจากนั้นผู้บริหารเวที โปรโมเตอร์ ทีมงานถ่ายทอดสด นักมวย และผู้เกี่ยวข้องต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือ เฟสชิลด์ ภายในสนามมวย” บิ๊กแดง เผย 
บิ๊กแดง ยังเผยอีกว่า มาตรการดังกล่าวเพื่อต้องการให้วงการมวยขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งถ้าหากปลายเดือนสิงหาคมภาครัฐผ่อนคลายล็อก ก็จะเริ่มจัดมวยได้ในช่วงเดือนกันยายนต่อไป โดยตนจะเข้าหาหาลือกับผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยในเร็วๆนี้ และยินดีถ้าหากรายการมวยช่องอื่นๆทั้งช่อง3 ,ช่อง7 จะมาใช้สถานที่ของเวทีลุมพินี เพื่อให้นักมวยมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้เพราะโควิดยังอยู่กับเราอีกนาน เราจึงต้องหาทางป้องกันให้ดีที่สุด 
ส่วนเสี่ยชาย โกสปอร์ต เผย การที่ลุมพินีมาจัดในระบบเปิด เป็นเอาท์ดอร์ ก็เป้นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเหลือนักมวย หัวหน้าคณะ ให้มีที่ทำมาหากินได้ ซึ่งต้องฝากภาครัฐบาลให้เห็นใจคนระดับรากหญ้าด้วย ลุมพินีก็มีแผนงานป้องกันที่เข้มงวดมากขนาดนี้ และ โกสปอร์ตก็เอาเทคโนโลยีมาช่วยเชื่อว่าจะทำให้การถ่ายทอดสดสมบูรณ์แบบแน่นอน