“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” ซุ่มลับอาวุธมวยไทยกับเทรนเนอร์คู่ใจ หวังมีโอกาสกลับมาชกในกติกามวยไทยที่คุ้นเคยอีกครั้ง พร้อมปักหมุดกระชากเข็มขัดแชมป์โลกมาครองให้ได้อีกเส้น
ซุปเปอร์บอน ขึ้นแท่นเป็นนักคิกบ็อกเซอร์ตัวท็อปของวงการอย่างไร้ข้อกังขา หลังสามารถโค่นบัลลังก์ของ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” พร้อมกับซิวเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต มานอนกอดได้สำเร็จ
จากนั้นนักสู้ชาวไทยวัย 31 ปี ก็ตอกย้ำความเป็นหนึ่งด้วยการล้างตาเอาชนะอริเก่าอย่าง “มารัต กริกอเรียน” ไปแบบขาดลอย ในการป้องกันแชมป์ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากว่าเขาคือเบอร์หนึ่งของรุ่น
โดยหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ก็โพสต์คลิปการซ้อมอาวุธมวยไทยกับเทรนเนอร์เกอย่างขะมักเขม้น พร้อมแคปชันที่บอกใบ้เป็นนัยว่า อยากข้ามสายกลับมาชกมวยไทยอีกครั้งเพื่อล่าเข็มขัดเส้นที่สอง
รวมถึงล่าสุด ซุปเปอร์บอน ก็ออกมายืนยันความตั้งใจว่า หลังหมดความท้าทายในกติกาคิกบ็อกซิ่งแล้ว เป้าหมายต่อไปที่อยากทำก็คือ การสอยเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทยให้ได้อีกเส้น โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องเจอกับใครหน้าไหนก็ตาม
“ที่จริงผมอยากชกมวยไทยมาตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่ผมมีชื่อเสียงและชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งระดับโลกมานาน ก็เลยโฟกัสกับกติกานี้มาตลอด แต่ตอนนี้ผมเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่งของ ONE และเอาชนะตัวท็อปมาหมดทุกคน ทำให้ผมแทบไม่เหลือความท้าทายอะไรอีกแล้ว”
“เป้าหมายต่อไปของผมก็คือการหาความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ผมจึงอยากกลับมาชกมวยไทยอีกครั้งครับ สุดท้ายไม่ว่าใครจะเป็นแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวต ผมก็พร้อมเจอกับทุกคน เพราะผมเชื่อว่าสุดท้ายเข็มขัดจะต้องตกมาเป็นของผมแน่ครับ”
อย่างไรก็ตาม ซุปเปอร์บอน คงยังไม่สามารถข้ามสายมาได้ง่าย ๆ เพราะยังเหลืองานสำคัญที่ต้องสะสางให้ลุล่วง นั่นคือการป้องกันเข็มขัดครั้งที่สอง กับ “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” เจ้าของแชมป์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ที่จ่อคิวเป็นผู้ท้าชิงรายต่อไป
หากถึงเวลานั้น ซุปเปอร์บอน ยังรักษาแชมป์เอาไว้ได้ ก็อาจมีลุ้นข้ามสายก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้านที่ต้นสังกัด ONE จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ แฟน ๆ สามารถติดตามข่าวสารและโปรแกรมการแข่งขันไฟต์ต่อไปของ ซุปเปอร์บอน ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และเว็บไซต์ ONEFC.com/th