นักชกโควตาโอลิมปิก 2020 ทั้ง 3 คนผ่านเข้าชิงเหรียญทองฉลุย “เจ้าเหลิม”ธิติสรรค์ ปั้นโหมด สังกัดสโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้อนแต้มขาด, “น้องครีม”ใบสน มณีก้อน สังกัดสโสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติชนะอาร์เอสซียก 3, “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี สังกัดสโมสรราชนาวี ได้บายไม่ต้องออกแรงในการแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ณ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2563
ผลการแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2563 ณ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีคู่ที่น่าสนใจ ดังนี้


เริ่มคู่แรกรอบรองชนะเลิศ “น้องเมษา”นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักชกเหรียญทองซีเกมส์ 2019 กับเหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ชกให้ทีมสโมสรราชนาวี พบกับ อภิษฏา ทันท่าหว้า นักชกทีมชาติชุดบีจากสโมสรกองทัพอากาศ ยกแรกเป็น นิลาวัลย์ ที่ออกหมัดได้แม่นยำชัดเจนกว่า เข้าสู่ยกที่ 2 ยังคงเป็นนิลาวัลย์ ที่เป็นฝ่ายคุมเกมการชกเอาไว้ได้หมดพร้อมกับยิงหมัดเข้าใส่อภิษฏา ได้เน้น ๆ ยกสุดท้าย อภิษฏา ออกมาเดินหน้าแลกหมัดแต่ว่านิลาวัลย์ชกได้เข้าเป้าชัดเจนกว่า หมดยก นิลาวัลย์เอาชนะคะแนนไปขาดลอยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ ธารทิพย์ วรรณพรม จากสโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


จากนั้น “เป็นน้องครีม”ใบสน มณีก้อน นักชกโควตาโอลิมปิก 2020 รุ่น 69 กก. ชกให้สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ ธันย์ชนก ศักดิ์ศรี อดีตนักชกทีมชาติจากสโมสรกองทัพบก สิ้นเสียงระฆัง เป็นใบสน ที่อาศัยรูปร่างสูงยาวกว่ายิงหมัดใส่ ธันย์ชนกได้จัง ๆ ยกที่ 2 ใบสนยิงซ้ายเข้าที่หน้าเต็ม ๆ หลายหมัดจนกรรมการนับ 8 ธันย์ชนกในช่วงปลายยก เกมการชกในที่ 3 ใบสนออกมาเดินหน้ายิงกำปั้นเข้าใส่ ธันย์ชนก เข้าที่ใบหน้าอย่างจัง ๆ จนได้ 3 นับ เป็นฝ่ายเอาชนะอาร์เอสซี ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ จันทิดา สุขาเขิน จากกองทัพอากาศ


ปิดท้าย“เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักชกทีมชาติไทยเจ้าของโควตาโอลิมปิก 2020 ชกให้สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ วันเฉลิม แซ่หาญ จากสโมสรราชนาวี การชกยกแรก ธิติสรรค์ อาศัยความเร็ว ชิงออกหมัดเข้าใส่ใบหน้าสลับลำตัว ได้อย่างแม่นยำ จะแจ้ง ผ่านเข้าสู่ยกที่ 2 ยังคงเป็นธิติสรรค์ ที่อาศัยความเร็วชิงจังหวะยิงหมัดเข้าใส่วันเฉลิมได้เน้นๆ จนยกสุดท้าย ธิติสรรค์ เป็นฝ่ายคุมเกมการชกเอาไว้ได้หมด สิ้นเสียงระฆัง ธิติสรรค์ เอาชนะคะแนนไปขาดลอยผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ปฎิภาน อุทัยดา จากสโมสรตำรวจ
ส่วนทางด้าน “น้องแต้ว”สุดาพร สีสอนดี กำปั้นสาวเจ้าของโควตาโอลิมปิก 2020 รุ่น 60 กก.ชกให้กับทีมสโมสรราชนาวี ไม่ต้องเหนื่อยแรงชกเนื่องจากทาง พรชิตา สีหาบูราณ จากผู้ครองฟ้า ไม่สามารถชกได้เนื่องจากใหล่หลุดจากการชกครั้งที่แล้วทำให้ สุดาพรเอาชนะผ่าน เข้าไปชิงเหรียญทองกับ พรทิพย์ บัวป่า นักชกทีมชาติชุดบี จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับผลคู่อื่น ๆ ทีมหญิง รอบรองชนะเลิศ รุ่น 48 กก. ปานประดับ ปลอดสัย(ราชนาวี) ชนะคะแนน ธนวรรณ ทองดวง(กองทัพอากาศ),รัชนีกร สีกระโดน(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะผ่าน ฐิติมา ศรีบุญเรือง(ภานุรังสี),รุ่น 51 กก. เปี่ยมสุข เพิ่มขุนทด(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)แพ้คะแนน จุฑามาศ จิตรพงษ์(กองทัพอากาศ),สวรรยา ศรีสวัสดิ์(กองทัพบก) จุฑามาศ รักสัตย์(ราชนาวี)
รุ่น 57 กก. หญิง ธารทิพย์ วรรณพรม(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะอาร์เอสซียก 3 ปรีดากมล ถิ่นทัพไทย(สโมสรตำรวจ), รุ่น 60 กก. ทิพวรรณ นิลทองอยู่(กองทัพบก)แพ้อาร์เอสซียก 1 พรทิพย์ บัวป่า(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ,รุ่น 69 กก. จันทิดา สุขาเขิน (กองทัพอากาศ) ชนะคะแนน อนุสรา ดูสันเทียะ(ราชนาวี)
ทีมชาย รุ่น 49 กก. สมัคร แซ่หาญ(กองทัพบก) ชนะผ่าน ฤทธิอมร แสงสว่าง(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก),ธนรัช แสงเพชร(สโมสรตำรวจ)ชนะอาร์เอสซียก2 พงศกร ไพโรจน์วรุฬห์ (มาบตาพุด),รุ่น 52 กก. ฉลองชัย มีนิลดี(กองทัพภาค3) แพ้คะแนน ปฎิภาณ อุทัยดา(สโมสรตำรวจ),รุ่น 57 กก.ศราวุฒิ สุขเทศ(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)ชนะคะแนน อมฤต เยาว์ดำ(กองทัพบก),รุตชการณ์ จันทร์ตรง(ราชนาวี)ชนะผ่าน พละดี ผลดิลก(ลูกประดู่)
รุ่น 63 กก. สมชาย วงค์สุวรรณ(กองทัพอากาศ) ชนะผ่าน ศักดา รวมธรรม(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ), บรรจง สินศิริ(กองทัพบก) ชนะผ่าน ทิวา จันทะคำภา(กองทัพภาค3),รุ่น 69 กก. อธิชัย เพิ่มทรัพย์(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะผ่าน ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา(พิทักษ์สันติราษฏร์),อนึ่ง คัตมารศรี (กองทัพบก) ชนะผ่าน กัมพล สุทธิ(กองทัพภาคที่4),รุ่น 75 กก.วีระพล จงจอหอ(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะอาร์เอสซียก 1 ยุทธพงษ์ สีกระโดน(ผู้ครองฟ้า),ศักดิ์กิตติ ปัญญาอภิวงค์(ลูกประดู่)แพ้คะแนน อภิสิทธิ์ ขันโคกเครือ